สิงโตำน้ำเงินครามระเบิดฟอร์มดุขึ้นนำเร็วตั้งแต่ 30 นาทีแรก ก่อนจะมาบวกเพิ่มอีกสามลูก เปิดบ้านถล่มปีศาจแดงของอดีตคนคุ้นเคยอย่าง เดอะ สเปเชียล วัน แบบขาดลอย

อันโตนิโอ คอนเต้ กุนซือเจ้าบ้าน ตัดสินใจเลือกยึด 11 คนแรกชุดเดิมจากเกมลีกนัดล่าสุดเมื่อสัปดาห์ก่อนที่ชนะเลสเตอร์ ซิตี้ 3-0 ลงเล่นทั้งหมด ในระบบ 3-4-4 เหมือนเดิม นำโดยสามประสานในแนวรุกอย่าง เปโดร โรดริเกวซ, เอเด็น อาซาร์ และ ดีเอโก้ คอสต้า

ด้านทีมเยือนของ โชเซ มูริโญ ที่ได้กลับมาเยือนถิ่นเก่าคู่บุญของตัวเองเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่รับงานกับปีศาจแดง กลับมาใช้บรรดาตัวหลักที่ได้พักในเกมยูโรป้าลีกเมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ถล่มเฟเนร์บาห์เช 4-1 อย่าง อันเดร์ เอร์เรรา, มาร์คัส แรชฟอร์ด รวมถึง ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ลงเป็นตัวจริงอีกครั้ง

ออกสตาร์ตเกมได้เพียงแค่ราว 30 วินาทีเท่านั้น เป็นเชลซีที่สามารถพังประตูขึ้นนำได้อย่างรวดเร็ว จากจังหวะที่ มาร์กอส อลอนโซ ตักบอลจากกลางสนามให้ เปโดร ฉวยโอกาสจากการที่แนวรับของยูไนเต็ดสื่อสารกันไม่ดีแตะหลบ ดาบิด เด เฮอา แล้วยิงด้วยซ้ายโล่งๆเข้าไป ส่งให้สิงห์บลูส์ออกนำไว 1-0

ถัดมานาทีที่ 21 เจ้าบ้านยังมาบวกลูกสองเพิ่มได้อีก จากลูกเตะมุมฝั่งขวาที่ อาซาร์ เปิดเข้าไปก่อนที่บอลจะขลุกขลิกอยู่แล้วกระดอนไปโดนตัวของ เอร์เรรา มาเข้าทางปืน แกรี เคฮิลล์ หวดด้วยขวาตามน้ำไปแฉลบตัวของ ดาลีย์ บลินด์ ตุงตาข่าย ช่วยให้สิงโตน้ำเงินครามหนีห่างเป็น 2-0 และจบ 45 นาทีแรกไปด้วยสกอร์นี้

ครึ่งหลังปีศาจแดงที่ตามหลังอยู่ถึงสองประตู ต้องรับตัดสินใจแก้เกมทันทีด้วยการส่งอดีตเด็กเก่าของสิงห์บลูส์เองอย่าง ฆวน มาต้า ลงมาเล่นแทน มารูยาน เฟลไลนี เพิ่มเพิ่มตัวเลือกในแนวรุก แต่หลังจากนั้นในนาทีที่ 52 ทีมเยือนกลับต้องเปลี่ยนตัวคนที่สองอีก เนื่องจากแนวรับตัวสำคัญอย่าง เอริค ไบญี โชคร้ายบาดเจ็บจนเล่นต่อไม่ไหว ทำให้ต้องส่ง มาร์กอส โรโฆ ลงมาแทน

จากนั้นนาทีที่ 62 เชลซีมาพังประตูที่สามทิ้งห่างออกไปอีก จากจังหวะที่ เนมานยา มาติช จ่ายทะลุช่องเข้าเขตโทษให้ อาซาร์ เลี้ยงโยกหนี คริส สมอลลิง ก่อนจะซัดเรียดด้วยขวาผ่านมือ เด เฮอา เข้าไปอย่างเด็ดขาด ส่งให้สิงโตน้ำเงินครามหนีเป็น 3-0

ถัดมานาทีที่ 70 เจ้าบ้านยังไม่หนำใจ เมื่อมาบวกลูกสี่เพิ่มได้อีก จากจังหวะที่ เปโดร ผ่านบอลให้ เอ็นโกโล ก็องเต้ ล็อคหลบแนวรับยูไนเต็ดแบบสุดเหนือชั้นก่อนจะซัดด้วยขวาตุงตาข่าย ช่วยให้สิงห์บลูส์นำห่างแบบหายห่วงถึง 4-0

สุดท้ายไม่มีประตูเกิดขึ้นเพิ่มเติมอีก ทำให้จบเกมเป็นเชลซีที่ถล่มเอาชนะไปได้แบบเละเทะถึง 4-0 เก็บเพิ่มเป็น 19 แต้ม แซงขึ้นไปรั้งที่ 4 แล้ว ส่วนแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดยังอยู่อันดับ 7 มี 14 คะแนนเท่าเดิม