"ไอ้ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก ตกเป็นข่าวว่ายังคงติดหนี้ "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด ยอดทีมแห่งสเปน อยู่อีก 11 ล้านปอนด์ (528 ล้านบาท) จากเมื่อครั้งที่คว้าตัว เมซุต โอซิล ยอดเพลย์เมคเกอร์ทีมชาติเยอรมัน มาร่วมทัพ ในปี 2013 จากการรายงานเมื่อวันเสาร์ที่ 19 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา

            อาร์เซน่อล ตกลงที่จะจ่ายค่าตัว โอซิล ให้กับ เรอัล มาดริด จำนวน 42.5 ล้านปอนด์ (2,040 ล้านบาท) ซึ่ง อาร์แซน เวนเกอร์ ผู้จัดการทีม "ไอ้ปืนใหญ่" ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเขาไม่กลัวที่จะทุ่มเงินสำหรับนักเตะคนหนึ่ง แต่จนถึงตอนนี้ยอดทีมแห่งถิ่นเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ก็ยังคงชำระค่าตัวนักเตะไม่ครบจำนวน 

            ล่าสุดมีข่าวออกมาว่า เรอัล มาดริด ให้ความสนใจที่จะดึง อารอน แรมซีย์ มิดฟิลด์ อาร์เซน่อล มาประสานงานร่วมกับ แกเร็ธ เบล เพื่อนร่วมทีมชาติเวลส์ ในถิ่นซานติอาโก เบร์นาเบว และถึงแม้ว่าปัจจุบัน "ราชันชุดขาว" ยังคงถูกสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) สั่งแบนจากตลาดซื้อ-ขายนักเตะจนถึงมกราคม 2018 แต่พวกเขาก็มั่นใจว่าจะชนะในการยื่นอุทธรณ์

            เชื่อกันว่า เรอัล มาดริด จะต้องจ่ายเงิน 25 ล้านปอนด์ (1,200 ล้านบาท) เพื่อดึงตัว แรมซีย์ แต่จากการที่ อาร์เซน่อล ยังคงติดค้างเงินพวกเขาอยู่ก็จะทำให้ยอดทีมแห่งสเปนสามารถซื้อตัวสตาร์ทีมชาติเวลส์ ได้ในราคาที่ต่ำกว่านั้น 

            ขณะเดียวกันก็มีข่าวว่า โอซิล ใกล้ที่จะต่อสัญญาฉบับใหม่กับ อาร์เซน่อล แล้ว ซึ่งจะทำให้เขาได้รับค่าเหนื่อยมหาศาลถึงสัปดาห์ละ 200,000 ปอนด์ (9.6 ล้านบาท) เลยทีเดียว หลังจากที่ดาวเตะแชมป์โลกเพิ่งซื้อคฤหาสน์มูลค่า 10 ล้านปอนด์ (480 ล้านบาท) เพื่อลงหลักปักฐานในกรุงลอนดอน 

            สำหรับ โอซิล โชว์ฟอร์มสุดยอดในฤดูกาลนี้ หลังยิงไปแล้ว 5 ประตูจาก 6 นัดหลังสุด รวมถึงแฮตทริกในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กับ ลูโดโกเรตส์ ด้วย