"เบนเซม่า"ผู้พิชิต!! "ราชัน" หืดจับบุกเฉือน "สปอร์ติ้งฯ" 10คน 2-1 ในศึก UCL เมื่อคืนที่ผ่านมา!!

"เบนเซม่า"ผู้พิชิต!! "ราชัน" หืดจับบุกเฉือน "สปอร์ติ้งฯ" 10คน 2-1 ในศึก UCL เมื่อคืนที่ผ่านมา!!

 

''ราชันชุดขาว'' เรอัล มาดริด เกมนี้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เกือบคืนสู่เหย้าแบบไม่สวยหรู หลังไม่สามารถยิงประตูทีมเก่า แถมโดนเจ้าบ้าน สปอร์ติ้ง ลิสบอน 10 คน ไล่ตีเสมอท้ายเกม แต่ได้ทีเด็ด คาริม เบนเซม่า ตัวสำรองโขกประตูชัยก่อนหมดเวลา 3 นาที พาทีมการันตีเข้ารอบ 16 ทีม ในศึกฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก (รอบแบ่งกลุ่ม เอฟ) เมื่อคืนวันอังคารที่ 22 พ.ย. ที่ผ่านมา

ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กลุ่ม เอฟ
วันอังคารที่ 22 พฤศจิกายน 2559
สปอร์ติ้ง ลิสบอน (โปรตุเกส) 1- เรอัล มาดริด (สเปน) 2


         สนาม : เอสตาดิอู ชูเซ่ อัลวาลาเด้, กรุงลิสบอน ประเทศโปรตุเกส


          เจ้าถิ่นมีลุ้นเฮือกท้ายๆ หาก สปอร์ติ้ง ลิสบอน หวังเข้ารอบต้องเก็บชัยเท่านั้นวางกัปตัน อาเดรียน ซิลวา เซตจังหวะตรงกลางสนาม โดยภาระเกมรุกฝากกับเจ้าเวหา บาส ดอสท์


          ด้าน เรอัล มาดริด ขออีก 1 แต้มเข้ารอบน็อกเอาต์ทันที คืนตำแหน่งเซนเตอร์ฮาล์ฟให้กับ เซร์คิโอ รามอส ส่วนแดนหน้า แกเร็ธ เบล ประสานงาน คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ท้าชนสโมสรที่ตัดสายสะดือแจ้งเกิด
 

          นวดอยู่พักใหญ่ ''ราชันชุดขาว'' ขึ้นนำสำเร็จ 1-0 นาที 29 ฟรีคิกริมเส้นฝั่งขวา ลูก้า โมดริช โยนกดดันไปตรงจุดโทษ โรนัลโด้ ยิงแป็กแต่กลายเป็นดีเข้าทาง ราฟาแอล วาราน เอาชนะกับดักล้ำหน้าล้มตัวยิงจ่อๆ ตุงตาข่าย
 

          เจ้าถิ่นเลือดขึ้นหน้าโต้มาจากนั้น 2 นาที ชูเอา เปเรยร่า เติมสุดเส้นฝั่งขวาแล้วครอสมาในเขตโทษ เกลซอน มาร์ตินส์ แปะต่อให้ บรูโน่ เซซ่าร์ วางเท้ายิงจาก 18 หลา วิถีลูกตุงตาข่ายแน่นอนต่ถูก รามอส บล็อกทิ้งเฉี่ยวเสาขวาออกหลัง
 

          โอกาสตีเสมออีกครั้งของ ''เลโอเนส'' นาที 41 เมื่อได้ฟรีคิกบนเส้นโทษพอดี มาร์เซโล่ ไปหวดฟาวล์ เกลซอน มาร์ตินส์ พร้อมรับใบเหลือง บรูโน่ เซซ่าร์ ย่างเข้าปั่นด้วยซ้ายฮุกข้ามกำแพงไปแล้วแต่เฉี่ยวสามเหลี่ยมไม่ไกล จบครึ่งแรกแชมป์เก่านำ 1-0

          ก่อนเข้าหนึ่งชั่วโมง 2 นาที มาดริดเปลี่ยนผู้เล่นให้ มาร์โก อเซนซิโอ ลงสนามแทน แกเร็ธ เบล ที่เจ็บ


          สถานการณ์ของเจ้าถิ่นแย่ลงไปอีกนาที 64 ชูเอา เปเรยร่า พยายามจะไปล้วงบอลจาก มาเตโอ โควาซิช ซึ่งถือไว้ไม่ให้เจ้าถิ่นเล่นเร็ว แบ็กซ้ายจึงสปอร์ติ้งแอบจ้วงท้องคู่แข่ง แต่ไม่รอดสายตาผู้ตัดสินรับใบแดงไล่ออก ขณะที่คู่กรณีรับใบเหลือง
 

          ''ราชัชุดขาว'' อาศัยผู้เล่นมากกว่าลุยหนักนาที 69 ลูกัส บาสเกซ ได้สับไกติดบล็อกกองหลัง
 

 
          10 ตัวของสปอร์ติ้งตีเสมอ 1-1 แบบพกดวงเมื่อได้จุดโทษจากแฮนด์บอลของ ฟาบิโอ โคเอนเตรา กองหลังสำรอง มาดริด ซึ่งเป็นกัปตัน อาเดรียน ซิลวา สังหารไม่พลาดในนาที 80
 

          แต่ก่อนหมดเวลา 3 นาที ''ราชันชุดขาว'' ขึ้นนำอีกครั้ง 2-1 เซร์คิโอ รามอส ครอสบอลสุดสวยให้ คาริม เบนเซม่า อีกหนึ่งสำรองโขกเสียบมุมซ้ายเป็นประตูชัยให้อาคันตุกะปิดจ๊อบเข้ารอบ 16 ทีม พร้อมเขี่ยสปอร์ติ้ง ลิสบอนหยุดเส้นทางแค่นี้

         รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
 

          สปอร์ติ้ง ลิสบอน : รุย ปาตริซิโอ - ชูเอา เปเรยร่า, เซบาสเตียน โกอาเตส, รูเบน เซเมโด้, มาร์วิน ซีเกลาร์ - อาเดรียน ซิลวา (กัปตันทีม), วิลเลี่ยม คาร์วัลโญ่ - เกลซอน มาร์ตินส์, บรูโน่ เซซ่าร์ - ไบรอัน รุยซ์, บาส ดอสท์

         สำรอง : เอเซเกล เชล็อตโต้, ลาซาร์ มาร์โควิช, โจเอล แคมป์เบลล์, เปาโล โอริเวียร่า, อันเดร, เอลิอาส, เบโต้

          เรอัล มาดริด  : เกย์ลอร์ นาวาส - ดาเนียล การ์บาฆาล, ราฟาแอล วาราน, เซร์คิโอ รามอส (กัปตันทีม), มาร์เชโล่ - มาเตโอ โควาซิช, ลูก้า โมดริช - ลูกัส บาสเกซ, อีสโก้, แกเร็ธ เบล -  คริสเตียโน่ โรนัลโด้

         สำรอง : กีโก้ กาซีย่า, ฟาบิโอ โคเอนเตรา, มาร์โก อเซนซีโอ, ดานิโล่, คาริม เบนเซม่า, นาโช่, ฮาเมส โรดรีเกซ

ผู้ตัดสิน : วิลเลี่ยม คอลลัม (สกอตแลนด์)