"ซิโก้"หวั่นพิษ "พลุแฟลร์" ทำแฟนโดนแบนคัดบอลโลก !!!
ความเคลื่อนไหวของทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ภายใต้การคุมทีมของ "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ซึ่งในปี 2017 จะลงเล่นศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 12 ทีมสุดท้าย กลุ่ม บี ทั้ง 5 เกม ประกอบด้วย วันที่ 23 มี.ค.2017 พบ ซาอุดิอาระเบีย (ห), วันที่ 28 มี.ค.2017 พบ ญี่ปุ่น (ย), วันที่ 13 มิ.ย.2017 พบ ยูเออี (ห), วันที่ 31 ส.ค.2017 พบ อิรัก (ห) และวันที่ 5 ก.ย.2017 พบ ออสเตรเลีย (ย)
ทว่าจากเหตุที่แฟนบอลกลุ่ม "อุลตร้า ไทยแลนด์" ทำการจุดพลุแฟลร์ ในเกมชิงชนะเลิศ นัดสอง ของศึก เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2016 เมื่อวันที่ 17 ธ.ค.ที่ผ่านมา ก่อนที่ทีมชาติไทย จะเอาชนะ อินโดนีเซีย 2-0 สกอร์รวม 3-2 ได้แชมป์สมัยที่ 5 นั้น
สถานการณ์ของ "ช้างศึก" ดูเหมือนว่ามีโอกาสที่จะออกได้ทุกกรณีว่าจะโดนปรับหรือแบน เนื่องจากการกระทำดังกล่าวแม้ว่าจะเกิดขึ้นในเกมระดับอาเซียน แต่อาจจะกระทบต่อแมตช์ของ เอเอฟซี และ ฟีฟ่า ตามที่ พาทิศ ศุภะพงษ์ โฆษกและรองเลขาธิการฝ่ายต่างประเทศสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ได้เคยบอกไว้นั้น อย่างไรต้องรอการประกาศจาก เอเอฟเอฟ ในช่วงวีกแรกของเดือน ม.ค.2017 ว่าจะออกมาเช่นไร
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือทีมชาติไทย ว่า จะมีผลกระทบในด้านใดบ้างหากว่า 3 เกมที่ "ช้างศึก" จะลงเล่นในสนามราชมังคลากีฬาสถาน ศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 12 ทีมสุดท้าย กลุ่ม บี แฟนบอลอาจจะโดนห้ามเข้าสนาม หากว่ามีมติออกมา
"ซิโก้" ได้ออกมาบอกว่า "การที่เราจะไม่มีแฟนบอลเข้าในสนาม หากว่ามีมติออกมาจากกรณีที่กองเชียร์บางกลุ่มจุดพลุแฟลร์นั้น ผมคิดว่าส่งผลกระทบทำให้เราเสียเปรียบเช่นกัน เพราะการเจอกับ 3 ทีมตะวันออกกลาง ทั้ง ซาอุดิอาระเบีย, ยูเออี และอิรัก เราหวังที่จะเก็บให้ได้ 6-7 แต้มด้วยกัน"