การปลดเคลาดิโอ รานิเอรี่ จากผู้บริหารเลสเตอร์ แน่นอนว่าสร้างความสั่นสะเทือนให้กับ พรีเมียร์ลีกได้อย่างมาก

         กระแสของแฟนๆบางส่วน คิดว่า เป็นทางเลือกที่ผิด อย่างไรก็ตาม มีอีกหลายเหตุผลที่สนับสนุนการตัดสินใจครั้งนี้ และนี่คือ 5 เหตุผลที่ ทำให้การปลดครั้งนี้ น่าจะส่งผลดีกับเลสเตอร์ ในช่วงที่เหลือของฤดูกาล

1 ปลดตอนนี้ก่อนจะสายเกินไป

         เรามีตัวอย่างให้เห็นบ่อยๆ ถึงสโมสรที่คิดจะเปลี่ยนผู้จัดการทีม แต่คิดช้าทำช้า จนทุกอย่างสายเกินแก้ และสุดท้ายร่วงตกชั้น ตัวอย่างเช่นในซีซั่นที่แล้ว นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด กว่าจะไล่สตีฟ แม็คลาเรน ออกแล้วแต่งตั้ง กุนซือระดับ ราฟา เบนิเตซ เข้าคุมท้พ ก็เหลืออีกแค่ 10 แมตช์เท่านั้น ซึ่งต่อให้ราฟาแน่มาจากไหน การจะกอบกู้ทีมที่ผุพัง ก็ไม่ได้ทำได้ง่ายๆ

         จริงๆเบนิเตซก็ทำผลงานรวมๆได้โอเค ขยับนิวคาสเซิล จาก 19 มาอยู่ที่ 18 แต่ก็ไม่ทันการ ทีมตกชั้นอยู่ดี มีคนพูดว่า ถ้ามีเกมอีกอย่างน้อย 2-3 นัด ทีมแม็กพายส์น่าจะรอด

         ดังนั้น ในเคสนี้ก็คล้ายกัน เลสเตอร์ รอไม่ได้ และไม่ควรรอด้วย ถ้าจะเปลี่ยนแปลง ก็ต้องจัดการมันตอนนี้  ซึ่งในลีก เลสเตอร์เหลือเกมในมือ 13 เกม มากพอที่จะอยู่รอดได้

2 ปลดเพื่อหยุดโมเมนตั้มที่ย่ำแย่

         ผลงานในปี 2017 เลสเตอร์ แพ้ในลีก 6 เกมติดต่อกัน ตกรอบเอฟเอคัพ ด้วยการแพ้ทีมมิลล์วอลล์ ในลีกรอง ขณะที่ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ความหว้งสุดท้าย ก็ประเดิมด้วยการแพ้ในเลกแรกอีก

         โมเมนตั้มของทีมนั้นย่ำแย่ และต้องหยุดเอาไว้เพียงแค่นี้ ไม่อย่างนั้น โอกาสที่จะแพ้ลากต่อไปเรื่อยๆ ก็มีความเป็นไปได้ การเห็นปัญหา แล้วปล่อยไปเรื่อยๆ หวังแต่ว่า ปัญหาจะได้รับการแก้ไขของมันเอง คงเป็นความคิดที่ไม่ค่อยเวิร์กเท่าไหร่นัก

3 รานิเอรี่ หมดมุก หมดไอเดีย

         จุดเด่นของเลสเตอร์ ซิตี้ ในซีซั่นที่แล้ว คือไม่ว่าเจอใคร พวกเขาก็เอาชนะได้ตลอด ไม่ว่าจะเจอทีมสไตล์ไหน ซีซั่นก่อนยิงประตูได้ต่อเนื่อง เจอคู่แข่งตั้งรับ ก็โหมหนักจนยิงได้ หรือเจอคู่แข่งบุก ก็ใช้เกมโต้กลับ โจมตีจนพังพาบ

         แต่ในซีซั่นนี้ เขาตื้อไปหมด เล่นอะไรไม่ออก เกมรุกยิงไม่ได้ เกมรับเสียประตูทุกเกม

         นับเฉพาะในพรีเมียร์ลีก ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ เลสเตอร์ ยิงใครไม่ได้มา 6 เกมติดต่อกันแล้ว บางทีการเอากุนซือใหม่ๆ ที่มีไอเดียเกมรุกต่างจากเดิมเข้ามา  อาจทำให้ปัญหาได้รับการแก้ไข

4 ตัวที่รานิเอรี่เลือกซื้อ น่าผิดหวังไม่ปัง

         รานิเอรี่ ได้งบประมาณพอสมควรในฤดูกาลนี้ แต่ว่าผู้เล่นที่เขาซื้อแต่ละคน กลับทำผลงานได้อย่างน่าผิดหวัง ตัวเลขที่รานิเอรี่ซื้อนักเตะ คือเกือบ 80 ล้านปอนด์ ซึ่งเป็นเงินที่มากพอๆกับทีมใหญ่ระดับท็อปโฟร์ (ขนาดลิเวอร์พูล ยังซื้อนักเตะแค่ 62 ล้านปอนด์เท่านั้น)

         แต่ว่าตัวผู้เล่นที่เขาจ่ายเงินแพงๆซื้อมา ไม่มีใครเล่นดีเลย  เหมือนกับตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ ตัวอย่างเช่น วิลเฟรด เอ็นดีดี้ ซื้อจากเก็งค์ ในราคา 17 ล้านปอนด์ , อาเหม็ด มูซ่า ซื้อจาก ซีเอสเคเอ มอสโก ราคา 16 ล้านปอนด์ และ อิสลาม สลิมานี่ ซื้อจากสปอร์ติ้ง ลิสบอนในราคา 28 ล้านปอนด์ แต่ว่าทุกๆคน ก็อย่างที่เห็น ผลงานน่าผิดหวัง

         โอเคว่าการเสียเอ็นโกโล่ ก็องเต้ ทำให้ทีมขาดแกนกลาง แต่เมื่อคุณได้งบขนาดนี้ กลับอุดรอยรั่วไม่ได้ มันก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผล ให้โดนเด้งได้เช่นกัน

5 สยบปัญหาภายใน

         มีข่าวลือ หนาหูว่า นักเตะระดับซีเนียร์ของเลสเตอร์ เข้าพูดคุยกับผู้บริหาร ว่าไม่พอใจเรื่องของแท็กติกการเล่น ซึ่งถ้าข่าวแบบนี้เป็นจริง มันแสดงให้เห็นว่า มีเรื่องในมุ้ง ที่ต้องได้รับการสะสาง

         สำหรับสโมสรฟุตบอลแล้ว หากทีมมีผลงานที่ล้มเหลว คนที่ต้องรับผิดชอบคนแรก ก็คือผู้นำทีม หรือผู้จัดการทีมนั่นเอง คุณไม่สามารถปฏิเสธความรับผิดชอบได้  ต่อให้มีความดีความชอบมากมายแค่ไหนในอดีต มันก็คนละส่วนกัน

         ผู้บริหารเลสเตอร์ ใช้คำว่า Painful but necessery หรือ เป็นการตัดสินใจที่เจ็บปวด แต่ก็จำเป็น ซึ่งเลสเตอร์ตอนนี้ไม่มีทางเลือกอะไรอีกแล้ว และในวิถีทางของฟุตบอล รานิเอรี่ก็คงเข้าใจดี ซึ่งทุกๆฝ่าย ก็ต้องยอมรับและเดินหน้ากันต่อไป